เกร็ดสุขภาพ (Health Tips)
เวลาเป็นแผลในปากหรือร้อนใน (Mouth Ulcers) หลายคนรู้สึกทุกข์ทรมานมาก เพราะนอกจากจะทำให้อดกินอาหารรสจัดที่ชื่นชอบแล้ว เวลาแปรงฟันก็แสนจะลำบากอีกด้วย
แผลร้อนในมีลักษณะที่สังเกตได้คือ เป็นแผลเปื่อยสีเหลืองอ่อน หรือเป็นจุดขาว ๆ อยู่ในปากหรือบนลิ้น มีขอบสีแดง อาจมีแผลเดียวหรือหลายแผลอยู่รวมกัน การเกิดแผลในปากบ่อย ๆ อาจเกิดจากร่างกายขาดสารอาหารบางอย่าง การแพ้ยา หรือเกิดจากความเครียด
นอกจากนั้น แผลร้อนในยังอาจเป็นอาการแสดงของโรคอื่น ๆ เช่น โรคซีลิแอ็ก (ลำไส้เล็กทำงานผิดปกติ) โรคโครห์น (ทางเดินอาหารอักเสบอย่างรุนแรง) หรือ โรคโลหิตจาง
ส่วนใหญ่แผลร้อนในมักมีขนาดตามขวางไม่เกิน 2-3 มิลลิเมตร และมักจะเป็นอยู่ไม่เกิน 10 วัน เราจะรู้สึกได้ว่าเป็นแผลร้อนในเมื่อกินอาหารรสเผ็ดร้อน หรือผลไม้ เปรี้ยว ๆ รู้สึกแสบปาก ผู้หญิงที่มีปัญหาเป็นแผลร้อนในอยู่เป็นประจำอาจสังเกตได้ว่ามักเกิดขึ้นระหว่างมีประจำเดือน มีปัญหาสุขภาพ ฟัน เช่น ขอบฟันบิ่นคม เกิดการบาดเจ็บเป็นแผล ในปากขึ้นได้ หรือทำให้เกิดการติดเชื้อ ซึ่งอาจมีอาการเป็นไข้ตัวร้อนร่วมด้วย ที่สำคัญถ้าร่างกายได้รับอาหารที่มีวิตามินบีอยู่ไม่เพียงพอกับความต้องการ อาจทำให้เกิดแผลในปากได้ อาหารที่มีวิตามินบี เช่น ผักใบเขียว ข้าวกล้อง ถั่วเปลือก แข็ง และไข่ เป็นต้น ส่วนการขาดธาตุสังกะสีก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดแผลในปากได้เช่นกันธาตุสังกะสีมีอยู่ในธัญพืชไม่ขัดสีและอาหารทะเล
สิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดแผลร้อนในคือหลีกเลี่ยงอาหารจัดและอาหารที่มีกรดหรือรสเปรี้ยว เช่น ผักดอง รวมไปถึงขนมหวานที่เคี่ยวจนเหนียว รวมทั้งเครื่องดื่ม ประเภทแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้อาการแผลในปากที่เป็นอยู่มีอาการรุนแรงขึ้น นอกจากนั้นควรบ้วนปากด้วยน้ำเกลือวันละ 2-3 ครั้ง และถ้าแผลไม่หายภายใน 3 สัปดาห์ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอื่น ๆ
พึงระลึกไว้ว่า แผลร้อนในเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายกำลังเหนื่อยล้า หรือทรุดโทรม จึงต้องดูแลตนเองให้แข็งแรงด้วยการกินอาหารให้เหมาะสม นอนหลับอย่าง พอเพียง และออกกำลังกายกลางแจ้งในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์เป็นประจำ วิถีชีวิตเช่นนี้จะทำให้สุขภาพดีขึ้น และลดความเสี่ยงจากโรคนี้ไปได้มาก
ที่มา : นิตยสารรายปักษ์ชีวจิต ปีที่6 ฉบับที่ 138